เมื่อเจ้าจอมวายร้ายและชาร์ลี เบ็ทส์ขโมยเอาผ้าเช็ดหน้าของนายบราวน์โลว์ได้แล้ว ก็พากันวิ่งไปตามถนนหลาย ๆ สายที่เป็นเส้นทางไปบ้านของฟากิ้น เด็กทั้งสองหยุดยืนอยู่ตรงบันไดสักพักหนึ่งเพื่อพักเหนื่อย และเพราะความกลัวว่าฟากิ้นจะจัดการกับตนเองอย่างไรเมื่อกลับมาโดยไม่มีโอลิเวอร์มาด้วย แต่ก็คงจะได้รู้กันในอีกไม่ช้านี้แล้ว เจ้าเด็กทั้งสองเปิดประตู้ห้องอย่างช้า ๆ แล้วเข้าไปข้างใน
“โอลิเวอร์อยู่ไหนล่ะ?” ฟากิ้นถามเสียงกระโชก หัวขโมยทั้งสองไม่ตอบแต่กลับมองหน้ากันอย่างกระสับกระส่าย
“เด็กคนนั้นอยู่ที่ไหน?” ฟากิ้นจับคอเสื้อของเจ้าจอมวายร้ายดึงไว้ขณะที่พูด “พูดออกมานะ ไม่งั้นฉันจะฆ่าแกแน่ พูดสิ!” แล้วเขาก็จับเด็กนั่นเขย่าไม่ต่างอะไรกับสุนัขฟัดหนู
“โดนตำรวจจับไปแล้วล่ะ จะมีอะไรซะอีกล่ะ เอ้า จัดการผมเลยสิ” แล้วเจ้าจอมวายร้ายก็ดิ้นหลุด โดยปล่อยให้เสื้อที่ยาวรุ่มร่ามของเขาติดอยู่ในมือของฟากิ้น แล้วฟากิ้นก็จับเอากาน้ำขึ้นมาจากโต๊ะแล้วขว้างไปที่เจ้าจอมวายร้าย แต่น้ำในกาใบนั้นกระเซ็นไปถูกอีกคน ซึ่งพึ่งก้าวเท้าเข้ามาในห้องพอดี
บิล ไซคส์ (Bill Sikes)
เขาเป็นชายอายุราวสามสิบห้าปี รูปร่างอัปลักษณ์ ใบหน้าดูชั่วร้ายเลวทราม ชื่อของเขาคือ บิล ไซคส์ และเขาก็เป็นคนชั่วช้าสามานย์สมกับท่าทางของเขาเสียจริง ไม่มีอะไรที่น่าดูเลยในตัวเขา ไม่ว่าจะเป็นกิริยาท่าทางหรือรูปร่างหน้าตา นอกจากสิ่งเดียวคือความรู้สึกรักไคร่เอ็นดูในสุนัขสีขาวรูปร่างอัปลักษณ์ตัวหนึ่ง ซึ่งติดสอยห้อยตามเขาไปทุกหนทุกแห่ง และในขณะนี้ก็ตามเขาเข้ามาในห้องด้วย หลังจากที่เขาแสดงความรักต่อสุนัขของเขาด้วยการเตะและบอกให้นอนลงแล้ว ไซคส์ก็ถามว่าเสียงเอะอะนั้นเกิดจากอะไร “ทำอะไรนั่นน่ะฟากิ้นไอ้โจรแก่ กำลังทารุณเด็กที่ทำงานให้แกใช่ไหมล่ะ?”
“อย่าดังไปไซคส์ แกจะทำให้พวกเราต้องลำบาก” แล้วฟากิ้นก็เล่าเรื่องการถูกจับของโอลิเวอร์ให้ฟัง เสร็จแล้วก็พูดต่อ “ข้าเกรงว่ามันคงจะเล่าเรื่องของพวกเราให้ตำรวจฟังหมดแล้วล่ะ และพวกเราก็จะซวยกันหมดล่ะคราวนี้ สำหรับแกเรื่องนี้อาจจะหนักหนากว่าข้าเสียอีกนะ เพื่อนยาก” ฟากิ้นมักติดนิสัยเรียกคนอื่นว่า “เพื่อนยาก” เสมอ เมื่อเขาตั้งใจจะบอกว่ามันเป็นเรื่องคอขาดบาดตาย
บิล ไซคส์หันกลับมาทันทีราวกับจะเข้ามาทำร้ายฟากิ้น แต่ก็เปลี่ยนใจไม่ทำเช่นนั้น เขาพูดว่า “ต้องให้ใครคนหนึ่งไปฟังเหตุการณ์ที่สถานีตำรวจ ถ้าเจ้าเด็กนั่นไม่ได้บอกอะไรตำรวจเกี่ยวกับเรื่องของพวกเรา ก็ไม่ต้องมีอะไรน่าวิตกจนกว่ามันจะออกจากคุก แล้วเราค่อยไปเอาตัวมันกลับมาอีก”
แนนซี่ (Nancy)
ทุกคนต่างก็เห็นด้วยกับความคิดนี้ แต่ไม่มีใครกล้าอาสาเข้าไปจับโอลิเวอร์ เพราะการกระทำเช่นนั้นมีความเสี่ยงที่จะโดนจับติดคุกมาก ทุกคนจึงนิ่งเงียบกันหมด และในตอนนั้นเองมีเสียงผู้หญิงพูดกันอยู่ที่หน้าประตูห้อง แล้วหญิงสาวสองคนก็เดินเข้ามาในห้อง ฟากิ้นเรียกคนหนึ่งว่าเบ็ทส์ และอีกคนหนึ่งว่าแนนซี่ เขาอธิบายสถานการณ์ให้หญิงสาวทั้งสองฟังและถามว่าใครจะอาสาไปทำงานครั้งนี้บ้าง
“จะให้ไปที่ไหน?” เบ็ทส์ถาม
“ไปที่สถานีตำรวจนี่เองแหละ แม่เพื่อนยาก”
เบ็ทส์ปฏิเสธทันที
“แนนซี่แม่เพื่อนยาก” ฟากิ้นพูดยิ้มอย่างเอาใจ “เธอล่ะจะว่ายังไง?”
“ฉันไม่ขอไปหรอก”
“เธอหมายความว่ายังไงที่พูดอย่างนั้นน่ะ?” ไซคส์พูด พลางมองดูแนนซี่อย่างประสงค์ร้าย
“ก็อย่างที่พูดน่ะสิ ฉันหมายความว่าฉันจะไม่ไป”
“ทำไมล่ะ เธอเป็นคนเหมาะที่สุดที่จะไป เพราะไม่มีใครแถวนี้รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับเธอเลย”
“และฉันเองก็ไม่อยากให้ใครเขารู้” แนนซี่ตอบ
ไซคส์จ้องหน้าแนนซี่อยู่สักครู่แล้วหันไปพูดกับฟากิ้นว่า “หล่อนยอมไปแล้วล่ะ”
“ไม่เอา ฉันไม่ไปหรอก” แนนซี่พูด
“เธอต้องไปแน่” ไซคส์พูด
บิล ไซคส์พูดถูก อิทธิพลของเขาที่มีอยู่เหนือแนนซี่นั้นมากมายนัก หล่อนเป็นคนรักของเขาและถึงแม้หล่อนจะรู้ดีว่าเขาเป็นคนชั่วช้าเพียงใด หล่อนก็ยังหลงรักเขาอย่างฝังใจ ถึงแม้ว่าเขาจะปฏิบัติต่อหล่อนด้วยความทารุณมากกว่าความเมตตารักใคร่ เช่นเดียวกับที่เขาปฏิบัติต่อคนทุกคน ดังนั้นในไม่ช้าแนนซี่ซึ่งแต่งกายแบบหญิงคนงาน ท่าทางเรียบร้อยมีตะกร้าคล้องแขน ก็ออกจากบ้านตรงไปยังสถานีตำรวจ พอมาถึงที่นั่นแนนซี่ก็ถามเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าน้องชายตัวเล็ก ๆ ของหล่อนถูกตำรวจกักขังตัวไว้ที่โรงพักบ้างหรือเปล่า แล้วหล่อนก็บรรยายรูปร่างลักษณะของโอลิเวอร์ให้ตำรวจฟังได้อย่างถูกต้องเพราะหล่อนเคยเห็นโอลิเวอร์อยู่กับพวกเด็ก ๆ บ่อย ๆ
“เด็กคนนั้นนั่นเอง” ตำรวจพูด “เปล่าไม่ได้กักขังเขาไว้หรอก สุภาพบุรุษคนนั้นรับตัวเขาไปแล้ว”
“ใครกันคะ สุภาพบุรุษคนนั้นน่ะ” แนนซี่ถามเสียงดัง “บอกฉันหน่อยได้ไหมคะว่าเขาอยู่ที่ไหน” ตำรวจคิดว่าหล่อนเป็นพี่สาวของโอลิเวอร์จริง ๆ จึงเล่าให้ฟังถึงเรื่องที่เด็กน้อยล้มป่วยลงกลางลานตอนที่ถูกสอบสวน และต่อมาสุภาพบุรุษคนหนึ่งก็นำตัวไปรักษาพยาบาลที่บ้านของเขาเอง ซึ่งอยู่แถวเพ็นทัลวิล (Pentonville)
แนนซี่รีบกลับไปหาพรรคพวกและเล่าเรื่องที่หล่อนไปได้ยินมาให้ฟัง บิล ไซคส์ไม่รอช้า เขาเริ่มต้นออกคำสั่งให้ลูกน้องออกติดตามค้นหาตัวโอลิเวอร์ทันที ฟากิ้นตื่นเต้นมาก
ต้องตามหาโอลิเวอร์ให้พบ
“เราต้องตามเจ้าเด็กคนนี้ให้พบให้ได้ เพื่อนยาก ต้องตามตัวมันให้พบ ชาลี เบ็ทส์แกไปเดินเตร็ดเตร่อยู่แถวเพ็นทัลวิล จนกว่าจะได้ข่าวคราวของมันนะ แนนซี่แม่เพื่อนยาก ฉันมั่นใจว่าเธอจะช่วยได้ เจ้าจอมวายร้ายก็เหมือนกัน เราต้องตามโอลิเวอร์ให้พบให้ได้” พูดแล้วก็เอื้อมมืออันสั่นเทาไปเปิดลิ้นชักและหยิบเงินออกมาจำนวนหนึ่ง แล้วก็แจกให้พรรคพวกคนละเล็กคนละน้อย
“เอาล่ะไปกันได้แล้ว” เขาพูด “สำหรับคืนนี้เราจะต้องหลบไปจากที่นี่ก่อน รู้แล้วใช่มั้ยว่าเราจะพบกันได้ที่ไหน อย่าอยู่ที่นี่อีกต่อไปแม้นาทีเดียว” แล้วเขาก็เปิดประตูและดันพรรคพวกโจรของเขาออกไปข้างนอก แล้วสวมหมวกและผิวปากเรียกสุนัขของเขาแล้วก็ออกไปนอกบ้าน โดยไม่ได้พูดจากับใครอีกเลย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น