ในบ้านของนายบราวน์โลว์ ด้วยการดูแลของแม่บ้านผู้มีเมตตา ในไม่ช้าโอลิเวอร์ ทวิสท์ก็หายดีพอที่จะลูกไปไหนมาไหนได้ เขาสำนึกในบุญคุณและแสดงความกตัญญูของเขาออกมาด้วยการทำตัวเรียบร้อยและช่วยเหลืองานบ้านต่าง ๆ ทั้งนางเบ๊ดวินและนายบราวน์โลว์ ผู้เป็นนายของหล่อนต่างก็รักใคร่เอ็นดูเขา
Oliver Twist แปลไทย (ฉบับย่อ)
มี 30 ตอนนะครับ จะพยายามลงให้จบครับ แหะๆ
วันศุกร์ที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2563
วันจันทร์ที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2563
ตอนที่ 9 เหล่าร้ายค้นหาโอลิเวอร์
เมื่อเจ้าจอมวายร้ายและชาร์ลี เบ็ทส์ขโมยเอาผ้าเช็ดหน้าของนายบราวน์โลว์ได้แล้ว ก็พากันวิ่งไปตามถนนหลาย ๆ สายที่เป็นเส้นทางไปบ้านของฟากิ้น เด็กทั้งสองหยุดยืนอยู่ตรงบันไดสักพักหนึ่งเพื่อพักเหนื่อย และเพราะความกลัวว่าฟากิ้นจะจัดการกับตนเองอย่างไรเมื่อกลับมาโดยไม่มีโอลิเวอร์มาด้วย แต่ก็คงจะได้รู้กันในอีกไม่ช้านี้แล้ว เจ้าเด็กทั้งสองเปิดประตู้ห้องอย่างช้า ๆ แล้วเข้าไปข้างใน
วันพฤหัสบดีที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560
ตอนที่ 8 ที่บ้านของบราวน์โลว์
เป็นเวลาหลายวันที่โอลิเวอร์ นอนป่วยไม่ได้สติอยู่บนที่นอนอันอ่อนนุ่ม เขาไม่รู้อะไรเกี่ยวกับความเมตตาปรานีของเพื่อนใหม่ของเขาเลย ในที่สุดเขาก็ฟื้นขึ้นด้วยความอ่อนเพลีย และด้วยสารรูปอันซูบซีดจากความรู้สึกเหมือนฝันร้ายอันยืดยาวที่ทรมานเขาอยู่ เขามองเห็นสุภาพสตรีชราคนหนึ่งนั่งอยู่ใกล้ ๆ และพอนางเห็นเขาพยายามลุกขึ้น ก็เดินยิ้มเข้ามาหาเขา
วันจันทร์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2560
ตอนที่ 7 ฟากิ้นกับสานุศิษย์ของเขา
โอลิเวอร์พำนักอยู่ในบ้านของฟากิ้นได้สองสามวันและระหว่างนี้เองเขาก็ได้เรียนรู้อะไรหลายอย่างเกี่ยวกับฟากิ้นและลูกศิษย์ของเขา ทุกเช้าเด็กเหล่านี้จะเล่นเกมอะไรอย่างหนึ่ง ซึ่งโอลิเวอร์รู้สึกว่าออกจะเป็นเกมที่แปลกประหลาดอยู่ ชายชราเอาสิ่งของนานาชนิดใส่ไว้เต็มกระเป๋า เป็นต้นว่า สมุดบันทึก ซองธนบัตร นาฬิกา ผ้าเช็ดหน้า พวกเด็กพยายามที่จะหยิบของเหล่านี้ออกมาขณะที่เขาแสร้งทำเป็นมองออกไปนอกหน้าต่าง
วันอาทิตย์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2558
ตอนที่ 6 โอลิเวอร์ ย่ำไปในลอนดอน
ตอนแรกโอลิเวอร์ก็วิ่งเพราะกลัวจะถูกจับ แต่เมื่อมาได้ไกลสักหนึ่งหรือสองไมล์แล้วเขาก็เปลี่ยนเป็นเดินไปอย่างเร่งรีบ จนกระทั่งเที่ยงวัน เมื่ออยู่ห่างจากเมืองและร้านต่อหีบศพไม่ต่ำกว่าห้าไมล์แล้ว เขาก็ทรุดตัวลงนั่งพักข้างหลักหินบอกระยะทาง เขาจะไปที่ไหนดี? ที่หลักหินมีข้อความเขียนไว้ว่า ‘ลอนดอน 70 ไมล์’ เขาจึงคิดจะไปลอนดอน
วันพุธที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2558
ตอนที่ 5 โอลิเวอร์หนี
เช้าวันรุ่งขึ้นโอลิเวอร์ตกใจตื่นเพราะเสียงดังอันเกิดจากใครคนหนึ่งเตะประตูร้านแล้วก็มีเสียงพูดอย่างโมโหว่า “เปิดประตูหน่อยได้มั้ย?” โอลิเวอร์สวมเสื้อผ้าแล้วก็มาเปิดประตูรับเด็กชายคนหนึ่ง ซึ่งมีอายุมากกว่าและรูปร่างสูงใหญ่กว่าเขา เด็กคนนั้นคือโนอา เคลย์โพล์ (Noah Claypole) เขาบอกโอลิเวอร์ว่า “แกต้องเรียกฉันว่า คุณโนอา เคลย์โพล์ และต้องทำงานอยู่ใต้บังคับบัญชาของฉัน เข้าใจไหม?” เขาเตะโอลิเวอร์ด้วยขณะที่พูด “แกเป็นเด็กคนใหม่ที่มาจากโรงเลี้ยงเด็กใช่มั้ยล่ะ? ลงไปกินข้าวเช้าที่ข้างล่างเสีย รีบ ๆ กินเข้าจะได้กลับมาช่วยดูร้าน”
วันอาทิตย์ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2558
ตอนที่ 4 โอลิเวอร์ฝึกงาน
เวลาล่วงเลยไปอีกสองสามวันแต่ก็ไม่มีใครเสนอตัวเข้ามารับโอลิเวอร์และเงินห้าปอนด์ไป คณะกรรมการรู้สึกเบื่อหน่ายต่อการรอคอยเช่นนี้ จึงได้ส่งนายบัมเบิ้ลไปสืบถามดูว่าจะมีกัปตันเรือคนใดต้องการเด็กไว้เป็นเด็กรับใช้ในเรือเพียงคนเดียวบ้าง ตอนที่เดินกลับมายังสถานสงเคราะห์ นายบัมเบิ้ลพบเพื่อนคนหนึ่งคือนายซอเวอร์เบอร์รี่ (Mr.Sowerberry) ซึ่งเป็นสัปเหร่อประจำสถานสงเคราะห์คนอนาถา
วันเสาร์ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2558
ตอนที่ 3 โอลิเวอร์กับคนทำความสะอาดปล่องไฟ
ตลอดสัปดาห์อันยาวนาน โอลิเวอร์ต้องถูกขังอยู่ในห้องมืดเล็ก ๆ เขาเพียงแต่ถูกนายบัมเบิ้ลนำตัวออกมาทุกเช้า เพื่อชำระร่างกายของเขาด้วยน้ำที่เย็นเหมือนน้ำแข็ง กลางลานดินที่มีอากาศหนาวเย็นจับใจ ทุกวันเว้นวันโอลิเวอร์จะถูกนำตัวเข้ามในห้องที่เด็ก ๆ กำลังรับประทานอาหารกันอยู่ ที่นั่นต่อหน้าเด็กทั้งหมด เขาจะถูกเฆี่ยนเพื่อเป็นการเตือนและเป็นตัวอย่างแก่เด็กอื่น ๆ และได้มีคำสั่งให้เด็กทุกคนสวดมนต์ภาวนาเพื่อให้รอดพ้นจากการทำผิดเหมือนโอลิเวอร์ ทวิสท์
วันพฤหัสบดีที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2558
ตอนที่ 2 ขออาหารเพิ่ม
หลังจากที่ไปถึงสถานสงเคราะห์ฯ ได้ไม่นาน โอลิเวอร์ก็ได้รับแจ้งว่าคณะกรรมการจะประชุมกันในคืนวันนั้น และเขาจะต้องไปปรากฏตัวต่อหน้าคณะกรรมการด้วย นายบัมเบิ้ลเป็นผู้นำตัวเขาไปที่นั่น แต่โอลิเวอร์ก็ไม่มีเวลาจะนึกถึงเรื่องนี้ เพราะนายบัมเบิ้ลได้เขกหัวเขาให้ตื่นขึ้นแล้วก็พาตัวเขาเข้าไปในห้องใหญ่ ซึ่งมีสุภาพบุรุษอ้วน ๆ หลายคนกำลังนั่งอยู่รอบ ๆ โต๊ะตัวหนึ่ง
วันอาทิตย์ที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2558
ตอนที่ 1 โอลิเวอร์ ในวัยเยาว์
โอลิเวอร์ ทวิสท์ (Oliver Twist) เกิดเมื่อร้อยกว่าปีมาแล้ว ในสถานสงเคราะห์เด็กอนาถาของเมืองหนึ่ง ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงลอนดอนไม่เท่าไรนัก แม่ของเขาซึ่งเป็นหญิงสาวรูปร่างบอบบาง มีผู้ไปพบนางเข้าเมื่อกำลังนอนป่วยอยู่ข้างถนน นางคงเดินมาไกลพอควร เพราะรองเท้าของนางขาด ไม่มีใครทราบว่านางมาจากไหนและกำลังจะไปไหน พอลูกชายที่เพิ่งคลอดของนางถูกนำมาไว้ในอ้อมแขนตามคำร้องขอของนาง แล้วนางก็สิ้นใจ
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)